เตือนภัยเกษตร….”โรคไหม้ข้าว”
เตือนภัย! #โรคไหม้ข้าว ภัยร้ายที่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวทุกภาคต้องเฝ้าระวัง โรคนี้เกิดจากเชื้อรา Pyricularia oryzae ซึ่งสร้างความเสียหายรุนแรงได้ตั้งแต่ระยะต้นกล้าไปจนถึงระยะออกรวง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อปริมาณและคุณภาพของผลผลิต
มาทำความรู้จักอาการในแต่ละระยะเพื่อการรับมือที่ทันท่วงทีกัน
ระยะกล้า
ใบข้าวจะมีแผลเป็นจุดสีน้ำตาลคล้ายรูปตา ตรงกลางแผลมีสีเทา หากระบาดรุนแรงต้นกล้าจะแห้งเหี่ยวและฟุบตาย มีลักษณะคล้าย #ถูกไฟไหม้
อาการจะปรากฏที่ใบ ข้อต่อของใบ และข้อต่อของลำต้น เป็นแผลช้ำสีน้ำตาลดำ และมักหลุดออกจากกาบใบได้ง่าย
ระยะออกรวง
เป็นระยะที่อันตรายที่สุด หากเชื้อเข้าทำลายช่วงข้าวเพิ่งออกรวง จะทำให้เมล็ดลีบทั้งหมด แต่หากเข้าทำลายตอนรวงข้าวแก่ จะเกิดแผลช้ำสีน้ำตาลบริเวณคอรวง หรือที่เรียกว่า #โรคไหม้คอรวง ทำให้รวงข้าวเปราะและหักร่วงหล่นได้ง่าย สร้างความเสียหายอย่างมาก
แนวทางการป้องกันและกำจัด
เลือกใช้พันธุ์ต้านทาน พิจารณาพันธุ์ที่เหมาะสมกับพื้นที่ของตนเอง เช่น
ภาคกลาง : สุพรรณบุรี 1, ปราจีนบุรี 1, กข33
ภาคเหนือ/อีสาน : ข้าวเจ้าหอมพิษณุโลก 1, สุรินทร์ 1, เหนียวอุบล 2
ภาคใต้ : ดอกพะยอม, กข55
หว่านเมล็ดในอัตราที่เหมาะสม คือ 15-20 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อให้แปลงข้าวมีการระบายอากาศที่ดี ลดความชื้นสะสม
คลุกเมล็ดก่อนหว่าน ด้วยสารป้องกันเชื้อรา เช่น ไตรไซคลาโซล, คาร์เบนดาซิม ตามอัตราแนะนำบนฉลาก
สำรวจแปลงสม่ำเสมอ หากพบอาการของโรค ให้รีบจัดการด้วย
เชื้อบีเอส (บาซิลลัส ซับทิลิส) ตามอัตราแนะนำ
เชื้อไตรโคเดอร์มา อัตรา 1 กิโลกรัม ต่อน้ำ 200 ลิตร
ในพื้นที่ที่เคยระบาดหนัก ควรวางแผนฉีดพ่นสารป้องกันเชื้อราในกลุ่ม ไตรไซคลาโซล, ไอโซโพรไทโอเลน หรือคาร์เบนดาซิม ตามคำแนะนำ
#โรคไหม้ข้าว#RiceBlast#ข้าว#เกษตรยุคใหม่#เกษตรตำบลคนใช้แรงงาน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: กรมการข้าว และสำนักงานเกษตรจังหวัดนครราชสีมา
