เตือนภัยเกษตร….”โรคไหม้ข้าว”

เตือนภัย! #โรคไหม้ข้าว ภัยร้ายที่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวทุกภาคต้องเฝ้าระวัง 🌾 โรคนี้เกิดจากเชื้อรา Pyricularia oryzae ซึ่งสร้างความเสียหายรุนแรงได้ตั้งแต่ระยะต้นกล้าไปจนถึงระยะออกรวง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อปริมาณและคุณภาพของผลผลิต

มาทำความรู้จักอาการในแต่ละระยะเพื่อการรับมือที่ทันท่วงทีกัน

🌱 ระยะกล้า

ใบข้าวจะมีแผลเป็นจุดสีน้ำตาลคล้ายรูปตา ตรงกลางแผลมีสีเทา หากระบาดรุนแรงต้นกล้าจะแห้งเหี่ยวและฟุบตาย มีลักษณะคล้าย #ถูกไฟไหม้

🌿ะยะแตกกอ

อาการจะปรากฏที่ใบ ข้อต่อของใบ และข้อต่อของลำต้น เป็นแผลช้ำสีน้ำตาลดำ และมักหลุดออกจากกาบใบได้ง่าย

🎑 ระยะออกรวง

เป็นระยะที่อันตรายที่สุด หากเชื้อเข้าทำลายช่วงข้าวเพิ่งออกรวง จะทำให้เมล็ดลีบทั้งหมด แต่หากเข้าทำลายตอนรวงข้าวแก่ จะเกิดแผลช้ำสีน้ำตาลบริเวณคอรวง หรือที่เรียกว่า #โรคไหม้คอรวง ทำให้รวงข้าวเปราะและหักร่วงหล่นได้ง่าย สร้างความเสียหายอย่างมาก

แนวทางการป้องกันและกำจัด

1️⃣ เลือกใช้พันธุ์ต้านทาน พิจารณาพันธุ์ที่เหมาะสมกับพื้นที่ของตนเอง เช่น

❗️ ภาคกลาง : สุพรรณบุรี 1, ปราจีนบุรี 1, กข33

❗️ ภาคเหนือ/อีสาน : ข้าวเจ้าหอมพิษณุโลก 1, สุรินทร์ 1, เหนียวอุบล 2

❗️ ภาคใต้ : ดอกพะยอม, กข55

2️⃣ หว่านเมล็ดในอัตราที่เหมาะสม คือ 15-20 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อให้แปลงข้าวมีการระบายอากาศที่ดี ลดความชื้นสะสม

3️⃣ คลุกเมล็ดก่อนหว่าน ด้วยสารป้องกันเชื้อรา เช่น ไตรไซคลาโซล, คาร์เบนดาซิม ตามอัตราแนะนำบนฉลาก

4️⃣ สำรวจแปลงสม่ำเสมอ หากพบอาการของโรค ให้รีบจัดการด้วย

✅ เชื้อบีเอส (บาซิลลัส ซับทิลิส) ตามอัตราแนะนำ

✅ เชื้อไตรโคเดอร์มา อัตรา 1 กิโลกรัม ต่อน้ำ 200 ลิตร

5️⃣ ในพื้นที่ที่เคยระบาดหนัก ควรวางแผนฉีดพ่นสารป้องกันเชื้อราในกลุ่ม ไตรไซคลาโซล, ไอโซโพรไทโอเลน หรือคาร์เบนดาซิม ตามคำแนะนำ

#โรคไหม้ข้าว#RiceBlast#ข้าว#เกษตรยุคใหม่#เกษตรตำบลคนใช้แรงงาน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก: กรมการข้าว และสำนักงานเกษตรจังหวัดนครราชสีมา